ตอบ ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ (Management Information Systems) หรือ MIS หมายถึงระบบที่รวบรวมและจัด เก็บข้อมูลจากแหล่งข้อมูลต่าง
ๆ ทั้งภายในและภายนอกองค์การอย่างมีเกณฑ์
เพื่อนำมาประมวลผลและจัดรูปแบบให้ได้สารสนเทศที่ช่วยสนับสนุนการทำงาน
และการตัดสินใจในด้านต่าง ๆ ของผู้บริหาร
เพื่อให้การดำเนินงานขององค์การเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
การเก็บบันทึกการ เช่น การทำบัญชี การจัดทำทะเบียนประวัติ
การทำเอกสาร เช่น การออกใบรับส่งสินค้า การออกเช็ค ใบเสร็จรับเงิน
การนำเสนอข้อมูล เช่น
การนำเสนอผลงานผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ
การทำรายงานควบคุมที่มีผลมาจากการดำเนินงานขององค์การ เพื่อตรวจสอบและควบคุมการดำเนินงานขององค์การ เช่น การออกเช็คเงินเดือนของพนักงานแต่ละคน
2.ข้อมูลและสารสนเทศมีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร
ตอบ มีความต่างกัน ข้อมูล หมายถึงข้อมูลดิบ
(Raw Data) ที่ถูกเก็บรวบรวมจากแหล่งข้อมูลต่าง
ๆ ทั้งภายในและภายนอกองค์การ โดยข้อมูลจะยังไม่มีความหมายในกานนำไปใช้งาน หรือ ตรงตามความต้องการของผู้ใช้ เช่น
รายรับ-รายจ่ายที่เกิดขึ้นในแต่ละวันของธุรกิจ นิสิต-นักศึกษาที่ลงทะเบียนเรียน
หรือเงินเดือนของข้าราชการ เป็นต้น
สารสนเทศ หมายถึง
ผลที่เกิดจากการประมวลผลข้อมูลดิบที่ถูกจัดเก็บไว้อย่างเป็นระบบ
โดยผลลัพธ์ที่ได้สามารถนำไปประกอบการทำงานหรือสนับสนุนการตัดสินใจของผู้บริหาร
เช่น ยอดงบดุลรายงานสรุปผลการดำเนินงาน หรือประมาณการรายได้ เป็นต้น
3.สารสนเทศที่ดีควรมีคุณสมบัติอย่างไร
ตอบ 1.) ถูกต้อง ข้อมูลที่ดีจะต้องมีความถูกต้องและปราศจากความคลาดเคลื่อน
2.) ทันเวลา ข้อมูลจะต้องทันต่อเหตุการณ์และไม่ล้าสมัย
3.)
สอดคล้องกับงาน สารสนเทศที่เป็นประโยชน์ต่อผู้บริหารต้องได้มาจากการประมวลผลของข้อมูลที่มีสาระตรงกัน
4.) สามารถตรวจสอบได้
ข้อมูลบางประเภทอาจมาจากแหล่งข้อมูลที่ซับซ้อนและหลากหลายทั้งจากภายในและภายนอกองค์กร
4.ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการมีประโยชน์ต่อการประกอบธุรกิจอย่างไร
ตอบ 1.) เข้าถึงสารสนเทศที่ต้องการได้อย่างรวดเร็วและทันต่อเหตุการณ์
2.) การกำหนดเป้าหมายกลยุทธ์และการวางแผนปฏิบัติ โดยผู้บริหารจะสามารถนำข้อมูลที่ได้จากระบบสารสนเทศมาช่วยในการวางแผน
และกำหนดเป้าหมายในการดำเนินงาน
3.) ตรวจสอบผลการดำเนินงาน เมื่อแผนงานถูกนำไปปฏิบัติในช่วงระยะเวลาหนึ่งจะต้องตรวจสอบการดำเนินงานว่าสอดคล้องกับเป้าหมายที่ต้องการเพียงไร
4. )ศึกษา และวิเคราะห์สาเหตุของปัญหา ในการดำเนินงาน
5. )การวิเคราะห์ปัญหาหรืออุปสรรค เพื่อหาวิธีควบคุม ปรับปรุงแก้ไขปัญหา
6.) ลดค่าใช้จ่าย ช่วยให้ธุรกิจลดเวลา แรงงาน ในการทำงานลง
5. ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการที่มีประสิทธิภาพต้องประกอบด้วยคุณสมบัติอะไรบ้าง
ตอบ
1.) ความสามารถในการจัดการข้อมูล
ระบบสารสนเทศที่ดีต้องสามารถปรับปรุงแก้ไขและจัดการข้อมูล
2.) ความปลอดภัยของข้อมูล
3.) ความยืดหยุ่น ระบบสารสนเทศที่ดีต้องมีความสามารถในการปรับตัวเพื่อให้สอดคล้องกับการใช้งานหรือปัญหาที่เกิดขึ้บ
4.) ความพอใจของผู้ใช้ สามารถนำไปประยุกต์ในงาน
หรือเพิ่มประสิทธิภานในการทำงาน
6.บุคคลที่เกี่ยวข้องกับระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการมีกี่ระดับ อะไรบ้าง
ตอบ มี 3 ระดับ 1. )หัวหน้าระดับต้น (First-Line Supervisor หรือ Operation
Manager) เช่น หัวหน้างาน หัวหน้าหน่วย หัวหน้าแผนก
2.)
ผู้จัดการระดับกลาง (Middle Manager) เช่น ผู้จัดการสาขา
ผู้จัดการแผนก ผู้จัดการฝ่าย หรือ ผู้อำนวยการ
3.) ผู้บริหารระดับสูง(Executive หรือ Top Manager) เช่น ประธานบริษัท
กรรมการผู้จัดการ ผู้ว่าการ
7.จงอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างการใช้งานระบบสารสนเทศและระดับของผู้บริหารในองค์การ
ตอบ
ลักษณะของระบบ
|
ระดับของผู้ใช้
|
||
ผู้จัดการ
ระดับปฏิบัติการ
|
ผู้จัดการ
ระดับกลาง |
ผู้จัดการ
ระดับสูง
|
|
§ ที่มาของสารสนเทศ
|
-ภายใน
|
-ภายใน
|
-ทั้งภายในและภายนอก
|
§ วัตถุประสงค์ของการใช้สารสนเทศ
|
-ปฏิบัติงาน
|
-ควบคุมผลปฏิบัติงาน
|
-วางแผน
|
§ ความถี่ของการใช้สารสนเทศ
|
-สูง
|
-ปานกลาง
|
-ไม่แน่นอน
|
§ ขอบเขตของสารสนเทศ
|
-แคบแต่ชัดเจน
|
-ค่อนข้างกว้าง
|
-กว้าง
|
§ ความละเอียดของสารสนเทศ
|
- มาก
|
-สรุปกว้าง ๆ
|
-สรุปชัดเจน
|
§ การรายงานเหตุการณ์
|
- ที่เกิดขึ้นแล้ว
|
- เกิดแล้ว/กำลังจะเกิด
|
- อนาคต
|
§ ความถูกต้องของสารสนเทศ
|
- สูง
|
- ปานกลาง
|
- ตามความเหมาะสม
|
8.ผู้บริหารสมควรมีบทบาทต่อการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศขององค์การอย่างไร
ตอบ 1.)
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการสร้างประสิทธิภาพ
และความพร้อมในการแข่งขันให้กับองค์การ
2.) เข้าใจความต้องการของระบบและองค์การในสภาพแวดล้อมยุคโลกาภิวัตณ์
3.)
ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพในการดำเนินงานทั่วทั้งองค์การ
4.) มีส่วนร่วมในการออกแบบและการพัฒนาโครงสร้างระบบสารสนเทศรวมขององค์การ
5.) บริหารและตัดสินใจในการสรรหาและคัดเลือกเทคโนโลยีสารสนเทศ
และสื่อสารโทรคมนาคม
6.) การจัดและควบคุมผลกระทบของเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีต่อผู้เกี่ยวข้อง
7.) ให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการทำงาน
แก่ผู้ใช้อื่น
8.) เข้าใจประเด็นสำคัญด้านจริยธรรมที่ เกี่ยวกับการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศ
9.โครงสร้างของหน่วยงานสารสนเทศแบ่งออกเป็นกี่ส่วน อะไรบ้าง
ตอบ โครงสร้างของหน่วยงานสารสนเทศแบ่งเป็น 3 ส่วน
1.) หน่วยวิเคราะห์ และออกแบบระบบ (System Analysis and Design Unit) มีหน้าที่ในการศึกษา วิเคราะห์ พัฒนา
และวางระบบงานคอมพิวเตอร์และสารสนเทศให้เหมาะสม
2.) หน่วย เขียนชุดคำสั่ง(Programming Unit) มีหน้าที่นำระบบงานที่ได้รับการออกแบบหรือความต้องการเกี่ยวกับชุดคำสั่งคอมพิวเตอร์
3.) หน่วยปฏิบัติการและบริการ(Operations and Services Unit) มีหน้าที่นำระบบงานที่ได้รับการออกแบบหรือความต้องการเกี่ยวกับชุดคำสั่งคอมพิวเตอร์
10.บุคลากรของหน่วยงานสารสนเทศแบ่งออกเป็นกี่ประเภท อะไรบ้าง
ตอบ บุคลากรของหน่วยงานสารสนเทศแบ่งออกเป็น 7 ประเภท
1.) หัวหน้าพนักงานสารสนเทศ หรือ CIO
เป็นบุคลากรระดับสูงขององค์การ
2.) นักวิเคราะห์และออกแบบ หรือ SA มีหน้าที่วิเคราะห์และออกแบบระบบงานในระดับต่างๆ
3.) ผู้เขียนชุดคำสั่ง บุคคลที่ทำหน้าที่เขียนชุดคำสั่ง
4.) ผู้ควบคุมเครื่องคอมพิวเตอร์ ทำหน้าที่ดูแลและควบคุมการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์
5.) ผู้จัดตารางเวลา ทำหน้าที่จัดตารางเวลาการใช้คอมพิวเตอร์
6.) พนักงานจัดเก็บและรักษา ทำหน้าเก็บรักษา และจัดทำรายการของอุปกรณ์
7.) พนักงานจัดเตรียมข้อมูล
ทำหน้าที่ในการนำข้อมูลจากเอกสารมาจัดอยู่ในรูปแบบที่เครื่องคอมพิวเตอร์เข้าใจได้
11.เพราะเหตุใดผู้ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีสารสนเทศจะต้องตระหนักและให้ความสำคัญกับจริยธรรมและจรรยาบรรณ
ตอบ เพราะ
การใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ สามารถทำให้เกิดการกระจายอำนาจในองค์การ
การบุกรุกสิทธิส่วนบุคคลหรือคู่แข่งขัน เป็นต้น ดั้งนั้นผู้ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีสารสนเทศก็
จะต้องตระหนักถึงบุคคลรอบข้างด้วยว่ามีผลกระทบต่อใคร ในด้านความเป็นส่วนตัว
ความถูกต้อง ความเป็นเจ้าของ และการเข้ามาใช้ข้อมูล
12.จงอธิบายตัวอย่างผลกระทบทางบวกและทางลบของการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
ตอบ ผลกระทบทางบวก
1.) เพิ่มความสะดวก สบายในการสื่อสาร การบริการ และการผลิต เช่น
ติดต่อสื่อสารด้วยเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
2.) เกิดสังคมแห่งการสื่อสารและสังคมโลก
3.) มีระบบผู้เชี่ยวชาญต่าง ๆ ในฐานข้อมูลความรู้
4.) เทคโนโลยีสารสนเทศสร้างโอกาสให้คนพิการหรือผู้ด้วยโอกาสจากการพิการทางร่างกาย
5.) พัฒนาคุณภาพการศึกษาโดยเกิดการศึกษาในรูปแบบ ใหม่
6.) การทำงานเปลี่ยน แปลงไปในทางที่ดีขึ้น
7.) ผู้บริโภคได้รับประโยชน์จาการบริโภคสินค้าที่หลากหลายและมีคุณภาพดีขึ้น
ผลกระทบทางลบ
1.) ก่อให้เกิดความเครียดขึ้นในสังคม
2.) ก่อให้เกิดการรับวัฒนธรรมหรือแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมของคนในสังคมโลก เช่น
การมอมเมาเยาวชนในรูปของเกมอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น
3.) ก่อให้เกิดผลด้านศีลธรรม
4.) การมีส่วนร่วมของคนในสังคมลดน้อยลง
5.) การละเมิดสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคล
6.) เกิดช่องว่างทางสังคม
7.) เกิดการต่อต้านเทคโนโลยี เช่น ด้านการศึกษา การสาธารณสุข เป็นต้น
8.) อาชญากรรมบนเครือข่าย เช่น ปัญหาอาชญากรรม
9.) ก่อให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพ เช่น โรคคลั่งอินเทอร์เน็ต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น